รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง รับยื่นหนังสือ จาก เลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐ และคณะ เรื่อง ขอให้ดำเนินการทางกฎหมาย กรณีมีผู้ใช้วุฒิปริญญาตรีปลอม
วันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2567 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง รับยื่นหนังสือ จาก รศ.ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐ และคณะ เรื่อง ขอให้ดำเนินการทางกฎหมาย กรณีมีผู้ใช้วุฒิปริญญาตรีปลอม ยืนยันคุณสมบัติเข้ารับตำแหน่งเลขานุการประจำคณะ กมธ. การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ปีพ.ศ. 2562-2563 ตามที่ปรากฏต่อสื่อสาธารณะว่า มีบุคคลดังกล่าวได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 62 ว่าการดำรงตำแหน่งดังกล่าวด้วยการศึกษาเพียงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็สามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้ ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความสงสัยว่าดำรงตำแหน่งนี้ได้อย่างไร และทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตามระเบียบของสภาผู้แทนราษฎร การตำแหน่งทางการเมืองตำแหน่งดังกล่าวนี้ ต้องมีคุณวุฒิ อนุปริญญา หรือ ปริญญาตรี จึงจะสามารถแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้ อนึ่งมีการเผยแพร่ในสื่อสาธารณะว่า บุคคลดังกล่าว ใช้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก BODHISASTRA UNIVERSITY รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้รับการรับรองในประเทศไทย และเป็นเพียงบริษัทที่เทียบวุฒิการศึกษาในรัฐฟลอริดา แต่ไม่ได้ออกใบปริญญาใดๆ ทั้งยังโดยมีการเชิญชวนประชาชนคนไทย ให้ดำเนินการจ่ายเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสารที่เป็นการเทียบวุฒิ เข้าข่ายเป็นวุฒิปริญญาตรีปลอม ทางศูนย์ ฯ จึงได้ทำหนังสือสอบถามมายังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และได้รับเอกสารตอบกลับว่า บุคคลดังกล่าว มีการใช้วุฒิบัตรปริญญาตรีจาก BODHISASTRA UNIVERSITY จริง จึงเป็นการใช้เอกสารวุฒิบัตรระดับปริญญาตรีปลอม ในการเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวจริง สร้างความเสียหายต่อรัฐ สภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยตรง ตนในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นองค์ประกอบของสภามหาวิทยาลัยฯ ที่อนุมัติปริญญาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทำหน้าที่ป้องปรามการใช้วุฒิบัตรปลอมในหน่วยงานราชการ ดำเนินการเรื่องนี้มาโดยตลอด และด้วยหน้าที่ของพลเมืองไทย ที่มีหน้าที่ปกป้องพิทักษ์รักษาทรัพย์สินของแผ่นดิน จึงขอให้รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อธำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง มิให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ทั้งต่อความรู้สึกของประชาชน และศักดิ์ศรีของวงการวิชาการและราชการ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมมอบหลักฐานที่ค้นพบจากเฟซบุ๊ก และเอกสารตอบกลับจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า สภาผู้แทนราษฎรไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าวเพราะอยู่ในความสนใจของสังคม และมีผลกระทบต่อชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของวงการการเมืองไทย ดังนั้น จะขอรับเรื่องดังกล่าว ไปตรวจสอบและ หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการป้องกันในทุกมิติโดยเร่งด่วน พร้อมจะนำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็วต่อไป